ข้าวนั้นเป็นสินค้าที่สามารถส่งออกไปต่างประเทศได้อย่างมากมาย สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศได้อย่างดีเยี่ยม แต่ด้วยมาตรฐานของการส่งออกนั้นจำเป็นที่จะต้องมีการกำหนดถึงคุณภาพของเมล็ดข้าวที่ได้จากการเก็บเกี่ยวเพื่อเป็นตัวกำหนดถึงคุณภาพในการปลูกข้าวนั้น ๆ และทำให้สามารถเกร็งกำไรขายเพื่อสร้างกำไรให้แก่ผู้ขายอย่างง่ายดาย สิ่งหนึ่งที่สามารถวัดถึงคุณภาพของเมล็ดข้าวนั้นก็คือเครื่องคัดข้าวสาร ที่สามารถคัดเลือกเมล็ดข้าวที่สมบูรณ์ไว้และทิ้งเมล็ดข้าวที่ไม่สมบูรณ์ออกไป

เมล็ดข้าวที่ดีในประเทศไทย

ข้าวเป็นหนึ่งในส่วนประกอบหลักในการรับประทานอาหารในประเทศไทย โดยผู้คนส่วนใหญ่มักนิยมทานข้าวเป็นอาหารหลัก ข้าวที่ผลิตมาจากประเทศไทยนั้นมีมากมายหลายสายพันธุ์ด้วยกัน เช่น ข้าวหอมมะลิ ข้าวเหนียว ข้าวกล้อง ข้าวญี่ปุ่น ข้าวไรซ์เบอร์รี่ เป็นต้น ล้วนแต่สามารถใช้เครื่องคัดข้าวสารในการแยกเมล็ดข้าวที่สมบูรณ์ออกไปอย่างง่ายดาย โดยเกณฑ์ในการพิจารณาถึงคุณภาพของเมล็ดข้าวนั้นชาวนาจะมีข้อสังเกตอยู่ไม่กี่ข้อ ได้แก่ ข้าวของเมล็ดข้าวนั้นมีขนาดที่สมส่วน ไม่ลีบแห้ง อีกทั้งสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่อาจจะเกาะมาที่ผิวของเมล็ดข้าวสารนั้นมักจะทำให้ข้าวสารนั้นมีคุณภาพที่ลดน้อยลง ขายไม่ได้ราคาเท่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นเครื่องคัดข้าวสารจึงได้เข้ามามีบทบาทในการคัดแยกเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ดีออกจากเมล็ดข้าวที่ไม่ได้คุณภาพ อีกทั้งยังมีประโยชน์ในด้านของการลดระยะเวลาในการทำความสะอาดเมล็ดข้าวพันธุ์นั้น ๆ ลงไปได้เป็นอย่างมากและระยะเวลาในการคัดแยกนั้นใช้เวลาน้อยกว่าการคัดแยกเมล็ดข้าวสารด้วยคน ซึ่งต้องใช้สายตาและแรงกายเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังเสี่ยงที่จะทำให้ข้าวนั้นไม่ได้คุณภาพจากคราบเหงื่อคราวไคลที่อาจจะร่วงไปยังเมล็ดข้าวชนิดนั้น ๆ นั่นเองครับ

ข้อดีและข้อได้เปรียบของเครื่องคัดข้าวสาร

  1. ช่วยลดระยะเวลาในการทำความสะอาดเมล็ดข้าวสารจากการนำไปร่อนในเครื่องคัดข้าวสาร
  2. ใช้ทรัพยากรในการคัดแยกที่น้อยกว่า ยกตัวอย่างเช่น ทรัพยากรจากปริมาณของคน และสามารถนำทรัพยากรนั้นไปหมุนเวียนสร้างประโยชน์ในส่วนอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า
  3. เครื่องคัดข้าวสารสามารถคัดแยกเมล็ดข้าวชิ้นที่มีความไม่สมบูรณ์ออกได้อย่างรวดเร็ว ใช้ระยะเวลาในการคัดแยกน้อยกว่าคนและแม่นยำกว่า อีกทั้งยังสามารถคัดแยกในปริมาณครั้งละมาก ๆ ได้อีกด้วย

การคัดแยกข้าวสารนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมากที่ชาวไร่ชาวนาจำเป็นต้องทำ เพื่อประเมินถึงสภาพของที่ทำนาว่ายังมีความปกติดีอยู่หรือไม่นั่นเอง เพื่อประโยชน์ต่อสถานที่ทำมาหากินของตนเองและทำให้ได้รายได้จากการขายข้าวที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น